หนังสือ / นิทาน คือ สื่อการสอนชิ้นสำคัญที่พ่อแม่สามารถเป็น ‘ผู้พูด-ผู้เล่าเรื่อง’ ส่วนลูกๆ จะเป็น ‘ผู้ฟัง’ สู่การเรียนรู้พร้อมทักษะที่มากถึงจำนวน 80% ในช่วงชีวิตของเค้า!
มากกว่าแค่ฝึกให้ลูกๆได้ใช้จินตนาการ ยังต่อยอดสู่การพัฒนาได้อย่างไร มาดูข้อดีของนิทานก่อนนอน ซึ่งคุณพ่อ-คุณแม่ควรมีไว้ใกล้ๆมือค่ะ
สายสัมพันธ์
3 ขวบแรก คือ โอกาสสร้างสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่ง สู่อนาคตที่จะกำกับชีวิตของเด็ก ๆ ให้วันข้างหน้าเป็นความอบอุ่นที่รับประกันว่าพ่อ-แม่ จะอยู่ใกล้ ๆ เค้า ได้เห็นหน้า ได้ยินเสียง มีการแตะต้องด้วยความรัก เด็กเล็กๆ ยิ่งจะสร้างตัวตน (self) ซึ่งเป็นรากฐานไปสู่พัฒนาการในอีกหลาย ๆ ด้าน จริงแค่ไหน?! เวลาที่ลูกดื้อ เพียงบางบ้านบอกว่า ‘จะงดนิทานก่อนนอน’ เด็กๆ ถึงกลับยอมเปลี่ยนพฤติกรรมกันเลยล่ะ
ด้านภาษา
เริ่มการอ่านกับลูกน้อยได้ตั้งแต่ที่เค้ายังอยู่ในครรภ์ ช่วงวัย 3-7 ปี ยังถือว่าเป็นปีทองของการเรียนรู้ในด้านภาษา ยิ่งอ่านเร็ว ลูกก็จะยิ่งมีคำศัพท์ในคลังสมอง และกระตุ้นให้เกิดการรู้-สื่อสารเป็นคำที่มีความหมายเร็วขึ้น. แม้จะเป็นตัวหนังสือ แต่สมองของเด็กจะเรียนรู้สัญลักษณ์ (symbolization) และถอดความหมาย สู่รากฐานของการอ่าน-เขียน และคณิตศาสตร์ในวันข้างหน้า
ความคิดและสติปัญญา
ภาพประกอบในนิทานช่วยกระตุ้นวงจรประสาทในสมอง ให้พร้อมเปิดรับรูปภาพอื่น ๆ ในครั้งหน้า เช่น รูปช้าง แสดงถึงสัตว์ที่มีจมูกยาว ตัวใหญ่ ใจดี ตามจินตนาการของเค้าที่อาจเปลี่ยนไปได้ในทุกวัน ยิ่งกว่านั้นเมื่อเจอะกับช้างตัวจริงในสวนสัตว์ สมองของเด็กยังเปลี่ยนรูปแบบความคิดได้อีกตามสถานการณ์ โดยไร้ขีดจำกัด เช่น ภาพช้างไอยรา , การเรียนวิศวะ รึสถาปัตยกรรมในวันหน้า
จิตใจ/จิตสำนึก
เนื้อเรื่องที่ดี ยังส่งผลต่อตรรกะความคิดและเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การผจญภัย โลกใต้น้ำ อวกาศ ยอดเขา สิ่งที่มองไม่เห็น ไปจนถึงความเป็นมนุษย์อย่างความรัก ความโกรธ ความตาย พลังทั้งด้านบวก/ด้านลบ เรื่องดี/เรื่องร้าย จึงไปพัฒนากลไกซึ่งป้องกันจิตใจและจิตใต้สำนึกของเด็กๆ ให้รับมือกับความเป็นจริงในชีวิตได้ดีขึ้นค่ะ
ประโยชน์อีกอย่าง คือ ช่วยเรื่องวินัยการนอน หนังสือเล่มโปรดในบรรยากาศที่สงบ น้ำเสียงที่ผ่อนคลาย 15 นาที ทุกๆวัน เป็นพื้นฐานการนอนเร็วเพื่อฝันดีของเด็กๆ และพร้อมตื่นมาพบวันใหม่อันสวยงาม พ่อแม่ทุกท่านสามารถเริ่มได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอ!
Photo by Annie Spratt on Unsplash