Plant-based meat (เนื้อสัตว์จำแลง) ดีจริงไหม? ทำไมใครๆก็นิยม

เรามักจะเคยชินกับคำพูดที่ว่า “ถ้าอยากสุขภาพดีต้องกินผักเยอะๆ และควรลดการกินเนื้อสัตว์ลง” หลายคนจึงหันมากินวีแกนกันมากขึ้น จนเกิดเป็นกระแสนิยมของการนำพืชมาแปลงเป็นเนื้อสัตว์ หรือเทรนด์อาหารที่เรียกว่า “Plant-based meat” (เนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช) 

Plant-based meat ทำมาจากอะไร ?

Plant-based meat ทำมาจากพืชที่ให้โปรตีนสูง อย่างเช่น ถั่ว อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต สาหร่าย น้ำมันมะพร้าว น้ำมันทานตะวัน นอกจากนั้นยังมีส่วนประกอบอื่นๆใส่ลงไปด้วย เช่น เต้าหู้ และข้าว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวประสานให้เนื้อติดกันเป็นก้อน คล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ  และใส่ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ “ฮีม” (heme) สารสกัดที่ได้มาจากถั่วเหลือง ประกอบไปด้วยธาตุเหล็ก จึงทำให้เนื้อที่ทำจากพืชนี้มีลักษณะของ รสชาติ สี และกลิ่นคล้ายกับเนื้อสัตว์ 

Plant-based meat อันตรายไหม มีประโยชน์จริงไหม ?

ถึงแม้ว่า “ฮีม” (heme) เป็นโปรตีนสังเคราะห์ที่สกัดมาจากถั่ว แต่ในกระบวนการผลิตก็มีการตัดต่อทางพันธุกรรม GMO อยู่ด้วย และแม้ว่าอาหารปรเภทนี้จะทำจากพืช แต่ก็อาจมีปริมาณของโซเดียมและไขมันแอบแฝงอยู่ด้วยเหมือนกัน  ดังนั้นถ้าจะทานก็ควรจะทานในปริมาณที่พอดี 

ทำไมเป็นเทรนด์อาหารประเภทนี้จึงเป็นที่นิยม ?

เหตุผลที่ 1  เนื่องจากผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนี้ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ผู้คนจึงหลีกเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม เพราะอาหารเหล่านี้เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดมะเร็ง แต่เนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช ให้โปรตีนได้ครบถ้วน และมีสารอาหารเพียงพอที่ร่างกายต้องการ 

เหตุผลที่ 2  การทานเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชช่วยลดโลกร้อน เนื่องจากกระบวนการการผลิตอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ส่งผลให้มีปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้นทุกปี  ดังนั้นการบริโภคเนื้อที่ทำจากพืชนี้ จึงช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างมาก

แนวโน้มของเทรนด์อาหารประเภทนี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการแข่งขันของตลาด และความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น Plant-based meat จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ

Photo by LikeMeat on Unsplash