ถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษสิ่งแรกที่น่าจะอยู่ในความคิดของเราเลยก็น่าจะเป็นวัฒนธรรมของการจิบชายามบ่าย หรือ ที่เรียกกันว่า “Afternoon Tea” เพราะว่าวัฒนธรรมนี้เป็นที่แพร่หลายอย่างมากในประเทศอังกฤษ แต่เพื่อนๆเคยสงสัยกันไหมคะว่าวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ใครเป็นคนคิดขึ้นมา ?? ถ้าอย่างนั้นเรามาดูประวัติคร่าวๆกันเถอะ ว่ามันเริ่มต้นมาจากไหนกัน
ประวัติความเป็นมาของคำว่า “Afternoon tea”
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ชาวอังกฤษมักจะรับประทานอาหารเเค่มื้อเช้าและมื้อเย็น ดังนั้นคนที่เป็นต้นคิดไอเดียนี้ก็คือ เลดี้แอนนา มาเรีย ดัชเชสของเบดฟอร์ด จึงจัดการให้นางสนมจัดของว่างแบบเบาๆที่มีทั้งน้ำชา สโคน คุ้กกี้ และแซนวิชแบบชิ้นเล็กๆ มารับประทานเพื่อประทังความหิวในช่วงบ่าย และช่วงเวลานั้นก็มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันกับขุนนางชาวอังกฤษไปด้วย ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายธรรมเนียมที่แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน
“Afternoon Tea” มีความแตกต่างกับ “High Tea” อย่างไร?
ตามปกติแล้วคนอังกฤษมักจะนิยมดื่มชาต่างจากมื้ออาหารหลักในตอนเช้า ในช่วงเวลาประมาณ 11:00 น การดื่มชาแบบนี้จะเรียกว่า “Afternoon Tea” หรือที่เรียกกันว่า “Low Tea” เพราะจัดวางบนโต๊ะทรงเตี้ย และมื้อสุดท้ายช่วงเวลาหลังอาหารมื้อเย็น เป็นการทานอาหารมื้อหนักในช่วงเย็นที่ควบไปกับการดื่มชา จะเรียกกันว่า “High Tea” โดยจะเสิร์ฟชาบนโต๊ะทรงสูง
ทุกวันนี้บ้านเราเองก็มีคาเฟ่หลายที่ที่มี Afternoon Tea ในราคาที่น่าโดน อย่างเช่น Paii (The House Sathorn) คาเฟ่บรรยากาศคลาสิค สไตล์โคโลเนียล ตั้งอยู่ที่ The House on Sathorn ณ โรงแรม W Bangkok ยังไงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ลองนัดเพื่อนๆ ไปผ่อนคลายกับบรรยากาศสบายๆ จิบชาอุ่นๆกับขนมแสนอร่อยกันดูนะคะ แล้วอย่าลืมถ่ายรูปอัพลงsocialแบบเก๋ๆให้คนอิจฉาเล่นๆกันด้วยล่ะ
Photo by Loverna Journey on Unsplash