ในช่วงนี้ไม่ว่าใครต่างก็บ่นว่าเงินไม่พอใช้ ก็แหงล่ะสิ ทั้งของกิน ของใช้ และน้ำมันแข่งกันขึ้นราคาทุกวัน ไม่รู้จะขึ้นราคาไปถึงไหน หาเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอจ่าย ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังใส้แห้งแน่ๆ ก่อนจะอดตายเพื่อนๆลองเอาวิธีเก็บเงินแบบชาวญี่ปุ่นไปลองใช้กันดีมั้ยคะ ?
เก็บก่อนใช้
เก็บเงินก่อนใช้เป็นเคล็ดลับที่ได้ผลจริงๆค่ะ แต่ก็เข้าใจว่าทำได้ยากจริงๆ แต่ถ้าเราตั้งใจและออกความพยายามทำได้แน่นอนค่ะ เริ่มแรกเลยพอเงินเดือนเข้าบัญชีให้เราโอนไปเก็บบัญชีเงินออมก่อนเลย และหลังจากนั้นเหลือเท่าไหร่เราค่อยมาจัดสรรปันส่วนว่า จะใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่ พอรู้ว่าเงินทั้งเดือนเหลือเท่าไหร่จะทำให้เราใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและประหยัดมากขึ้น ถ้าคุณทำแบบนี้ทุกเดือนรับรองมีเงินเก็บแน่นอนค่ะ
ไม่ตุนของ
เป็นเรื่องปกติที่เราจะมักจะซื้อของตุนไว้ตอนที่มันลดราคา หลายคนมองว่าเป็นวิธีที่ฉลาดเพราะช่วยเราประหยัดเงินได้เยอะ แต่เพื่อนรู้หรือไม่ว่า ของบางอย่างก็ไม่ควรซื้อตุนไว้เยอะๆนะคะ โดยเฉพาะของสด และของที่ลดราคาเพราะใกล้จะหมดอายุ ถ้าเรากินไม่ทันมันก็เสียของ และเสียเงินอยู่ดี สรุปมันไม่ได้ช่วยให้คุณประหยัดแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้น ตุนเฉพาะของที่มีอายุการใช้งานนานๆและจำเป็นจริงๆก็พอค่ะ
ทำอาหารกินเอง
ในยุคนี้ยอมรับจริงๆว่า ทำอาหารกินเองประหยัดสุดๆ อาหารนอกบ้านจานนึงราคาเป็นร้อยถ้าทุกคนในครอบครัวซื้อกิน 3 มื้อคิดดูสิว่า จะต้องจ่ายวันละกี่ร้อย ? แต่ถ้าเราไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวมาทำกินเอง เงินร้อยก็กินได้หลายคนและหลายมื้อ แถมยังได้อาหารที่สะอาดและถูกปากอีกด้วย ยังไงก็ลองทำอาหารไปกินเองและเอาไปกินที่ทำงานดูซักอาทิตย์ดูก่อนสิคะว่าคุณจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นจริงๆมั้ย ?
ทำบัญชี
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นหัวใจสำคัญมากๆที่ช่วยให้เรารู้สถานการณ์ และนิสัยการใช้เงินของเราได้ดีที่สุดค่ะ ปกติเรามักจะคิดว่าการจดทุกอย่างที่ซื้อมันวุ่นวายใช่มั้ยคะ ? แต่ถ้าคุณได้ลองทำบัญชีดูซักอาทิตย์คุณจะตกใจว่า คุณใช้เงินเยอะขนาดนี้เลยหรอ ? บางทีของที่เราซื้อมันไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ การจดทุกอย่างที่ซื้อในแต่ละวันจะช่วยคุณประหยัดเงินได้และมีเงินเก็บได้อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆค่ะ
เพื่อนๆคิดยังไงกับวิธีเก็บเงินแบบชาวญี่ปุ่นที่นำมาแชร์คะ ดิฉันเชื่อว่า บางคนอาจจะเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง บางคนก็อาจจะทำอยู่แต่ไม่ได้จริงจัง ส่วนใครที่ยังไม่เคยทำก็ลองดูนะคะ เราจะได้มีเงินเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินค่ะ
Photo by micheile dot com on Unsplash