ใครๆต่างก็รู้ดีว่า โรค SLE เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆในร่างกายทำให้มีการอักเสบเรื้อรัง เป็นระยะเวลานาน เมื่ออาการกำเริบจะมีความรุนแรง เรื้อรัง และรักษาให้หายขาดไม่ได้ เมื่ออาการกำเริบทำให้บางคนที่ป่วยถึงกับอยากจะตายด้วยซ้ำ จริงๆแล้วโรค SLE น่ากลัวขนาดนั้นมั้ย ? ในบทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ
ทำไมบางคนคิดว่าโรค SLE น่ากลัว ?
เมื่อพูดถึงโรค SLE หลายคนกลัวก็เพราะโรคนี้ได้ทำให้คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ นักร้องลูกทุ่งเสียชีวิตไปแล้ว ตัวดิฉันเองก็ป่วยเป็น SLE ด้วยค่ะ มีอาการผิดปกติทั้งร่างกายภายนอกและระบบเลือด เช่น ผมร่วงเป็นกระจุกๆ มีผื่นขึ้นทั้งใบหน้า หนังศีรษะ ในปาก และไวรัสขึ้นตา ไม่มีแรง เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย ปวดหัวรุนแรง ส่วนระบบภายใน เกร็ดเลือดต่ำมาก ๆ เม็ดเลือดแดงแตก โปรตีนรั่วออกมากับปัสสาวะ ติดเชื้อ หายใจไม่ออก ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆกัน หลังจากรักษาแล้วก็มีผลข้างเคียงจากยาเสตรียรอยด์ที่ทำให้หน้าบวม นอนไม่หลับ เพื่อน ๆคิดดูละกันว่าดิฉันทรมานขนาดไหน ? ซึ่งตอนนั้นรู้สึกเลยว่า SLE น่ากลัวมาก ๆ !
รู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเป็นโรค SLE ?
อาการของโรค SLE ใช่ว่าจะตรวจเจอกันได้ง่ายๆ นะคะ เพราะอาการบางอย่างมักจะคล้าย ๆกับโรคทั่วไป เช่น การปวดกระดูกและข้อจากโรครูมาตอยด์ อาการเหนื่อยหอบจากโรคไทรอยด์ ถึงแม้ SLE เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ฮอร์โมน แสงแสด สารเคมี ไวรัส และการติดเชื้อก็ตาม แต่ทุกวันนี้สภาพแวดล้อม พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ความเครียด รวมถึงอาหาร ก็มีส่วนทำให้คนป่วยเป็น SLE กันมากขึ้นค่ะ
ถ้าเพื่อนๆ รู้สึกว่าตัวเองมีไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นขึ้นตามใบหน้า ผมร่วง ท้องเสีย ผิวหนังเป็นรอยช้ำ เป็นจ้ำ มีเลือดออกง่าย ให้รีบไปหาคุณหมอเพื่อเจาะเลือดไปตรวจวินิฉัยว่าเราเป็นโรค SLE หรือไม่ค่ะ.
โรค SLE ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ
ถึงแม้ทางการแทพย์ออกมายอมรับว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายก็จริง แต่ถ้าดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีและมีวินัย อาการของโรคก็สงบได้ และสามารถใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปได้ ปัจจุบันการรักษาโรค SLE คุณหมอจะให้ยา เสตียรอยด์ และยากดภูมิค่ะ ในบางคนให้วิตามิน B และยาบำรุงเลือด ยาความดัน และยาบำรุงหัวใจ มีการตรวจเลือดเพื่อดูค่าของไต ตับ ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดเป็นประจำเพื่อปรับการรักษา เมื่ออาการดีขึ้นก็ค่อยปรับยาลดลงค่ะ
การไปหาหมอตามนัด กินยาตามหมอสั่ง ควบคุมเรื่องอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงแสงแดด และอาหารที่กระตุ้นให้อาการกำเริบ โรค SLE ก็จะเป็นเพียงโรคธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเองค่ะ
ภาพโดย Parentingupstream จาก Pixabay