อยู่คนเดียวไม่ได้ ทำยังไงดี

ความรู้สึกเหงา และกลัว เป็นเรื่องปกติเมื่ออยู่คนเดียว  แต่ถ้าอยู่คนเดียวแล้วกลัวตลอดเวลาจนควบคุมไม่ได้น่าเป็นห่วงค่ะ ! เรามาเช็คด้วยกันดีไหมว่า การอยู่คนเดียวไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุอะไรบ้าง ? และมีวิธีแก้ยังไง ? อ่านไปพร้อม ๆกันเลยนะคะ 

หาสาเหตุให้เจอก่อน 

การอยู่คนเดียวไม่ได้ อาจจะมีสาเหตุมาจาก 2 กรณีค่ะ คือ รู้สึกเหงา และรู้สึกกลัว 

รู้สึกเหงา : เป็นเรื่องปกติเมื่อต้องอยู่และทำอะไรคนเดียว เมื่อต้องจากบ้านไปทำงาน เรียน  อาการนี้จะเกิดขึ้นในช่วงแรกๆ แต่พอปรับตัวได้ก็หายไป 

รู้สึกกลัว : ทุกครั้ง กลัวตลอดเวลาเมื่ออยู่คนเดียว จนไม่กล้าออกไปไหน ประหม่า ไม่มั่นใจ ถึงขั้นส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และต่องานอาชีพ แบบนี้อาจเข้าขั้นเป็นโรคกลัวการอยู่คนเดียวแล้วค่ะ

โรคกลัวการอยู่คนเดียวเป็นยังไง ? 

โรคนี้ ในภาษาอังกฤษคือ Autophobia เป็นอาการ ที่มีความรู้สึกกลัวมากๆ กังวล เบื่อ เหงาโดดเดี่ยว รู้สึกไม่มั่นใจเวลาอยู่ในที่สาธารณะ และการเข้าสังคม กลัวจนมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ และเป็นโรคซึมเศร้า ส่งผลเสียต่อการทำงาน  แต่ถ้าได้อยู่กับคนอื่น อาการก็จะหายไป

สาเหตุ : อาจจะเคยถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวมาก่อน  และเกิดจากการกระบวนการทำงานของสมอง , มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพโดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

วิธีแก้ง่ายๆ 

ก่อนอื่นคงต้องเช็คว่าตัวเองเมื่ออยู่คนเดียวเราแค่รู้สึกเหงาสักพักก็หาย หรือกลัวอยู่ตลอดเวลา จนควบคุมตัวเองไม่ได้ 

กรณีกลัวจนควบคุมไม่ได้ เราควรจะปรึกษาจิตแพทย์ค่ะเพื่อช่วยเราให้รู้สึกผ่อนคลาย ฝึกหายใจ และช่วยบำบัดความคิดและพฤติกรรม ให้คิดเรื่องร้ายๆน้อยลง เพื่อจัดการกับความรู้สึกประหม่า และความกลัวได้ เรียนรู้ที่จะรับมือกับสิ่งใหม่ๆด้วยตัวเอง เพื่อทำให้ความกลัวหายไป โดย การฝึกที่จะอยู่คนเดียวทีละนิด อาจจะเริ่มจากวันละ 15 นาทีในอาทิตย์แรก และหลังจากนั้นก็เพิ่มเป็นวันละ 30 นาที แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ตัวเองเอาชนะความกลัวได้ การฝึกหายใจและ เล่นโยคะก็จะทำให้คุณจัดการกับความกลัวได้ดีขึ้นค่ะ

ความเหงา ความกลัว เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาได้ แต่มันก็หายได้ เราต้องรู้จักเรียนรู้ ที่จะมองทุกอย่างตามความเป็นจริงว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกไปตลอดชีวิต ฝึกเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองและในที่สุดเราก็จะมีจิตใจที่สงบ มีความสุขและสุขภาพจิตที่ดีได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก TheStandard

Photo by Matthew Henry on Unsplash