หวังดี..ยังถูกมองว่าเป็นส่วนเกิน , หวังดี..ไม่ได้ดี , หวังดีแท้ๆ แต่กลับไม่มีใครเห็นค่า , หวังดีแล้วยังโดนโกรธ รึว่าแส่ไม่เข้าเรื่อง!
เจ็บหนักเลยค่ะทุกคน.. ถ้าต้องเจอสภาพการณ์แบบนี้ ความน้อยใจ/เสียใจ ย่อมสร้างความทุกข์ใจให้กับผู้ที่หวังดีแน่ๆ ลองมาดูเหตุผลและทางแก้กันสิ!
ได้ ‘ผลเสีย’มากกว่าดี
ทำด้วยความหวังดี แต่ดันได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี.. อาจเกิดขึ้นจากความคิดที่ไม่รอบคอบ ไม่ทันฉุกคิด หรือ ไม่ได้สื่อสารกันให้ดีก่อน สิ่งที่ทำได้ คือ ชะลอความหวังดีลงซะหน่อย หากไม่แน่ใจว่าทำแล้วจะดีจริงๆรึป่าว ก็อาจจะถามอีกฝ่ายนึงให้ดีก่อน
ถูกมองว่า ‘น่ารำคาญ’
กรณีนี้ไม่ใช่ผลที่เลวร้าย แต่กลับสร้างความไม่พอใจ-ไม่ลงรอยกันได้ เพราะเกิดจาก ‘ความหวังดีที่มากเกินไป’ จนทำให้ครอบครัว หรือ คนที่เป็นแฟนกันต้องแก้ไข คำว่า “เยอะ” , “บ่อยไป” เพื่อหาทางออกและจัดการกับความกังวลของตัวเองให้ดีขึ้น
‘ผิดเวลา’
แม้จะไม่สร้างปัญหาแต่การกระทำที่ผิดกาลเทศะ ก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี-เครียดได้ ทั้งการพูดถึงสถานการณ์ที่แย่ๆ ทำอะไรบางอย่างต่อหน้าคนอื่นเป็นจำนวนมาก เพื่อลดความตึงเครียดจึงควรมองไปในสถานการณ์รอบๆ ดูว่ามันเหมาะสมจริงรึป่าวก่อนที่จะแสดงความหวังดีออกไปค่ะ
‘คนที่ไม่ใช่’
ได้ยินบ่อยๆว่า ‘คนที่ไม่ใช่..ทำอะไรก็ผิด!’ เพราะถึงจะเกิดผลดี แต่อีกฝ่ายก็อาจจะไม่ชอบอยู่ดี แนวทางแก้ไข คือ ย้อนมาดูว่าความสัมพันธ์ของเรากับอีกฝ่าย ทั้งยังเผื่อใจยอมรับในกรณีที่อีกฝ่ายไม่โอเคด้วย (ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในกรณีการจีบ)
..เมื่อไหร่ที่ควร ‘เก็บความหวังดีของเราคืนมา’ คือ ครั้งนั้นมันจะไม่ได้ถูกมองว่าดีค่ะ ความหวังดีจึงควรถูกเรื่อง , ถูกที่-ถูกเวลา และถูกคนแบบไม่มากไม่น้อยเกินไป ถึงจะเป็นความหวังดีที่ส่งผลดีได้จริงๆ!