รู้แล้วจะสบายใจขึ้นเยอะ! 7 ข้อที่ “พนักงานดีเด่นประจำออฟฟิศ” ควรรู้ไว้

เวลาอยู่ในออฟฟิศ แล้วมีเพื่อนมาขอให้ช่วยทำนั่นบ้างนี่บ้าง ไปๆมาๆเลยทำให้ตัวเองดูเป็นพนักงานดีเด่นที่ยุ่งอยู่เสมอ คุณเป็นแบบนี้รึเปล่า? ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนที่รับมือกับงานหนักๆได้ดีก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าหากเราพยายามากเกินไปที่จะเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในออฟฟิศ หรือพนักงานดีเด่นอยู่เสมอ นี่อาจจะทำให้คุณเสียกำลังกายและใจมากเกินได้ในบางครั้ง 

บางครั้งคุณเองอาจทำงานหนักเกินไปโดยไม่รู้ตัว

หลังจากทำงานชิ้นใหญ่ๆเสร็จ เพื่อนๆก็มักจะชวนกันไปดื่ม เคยมั้ยที่บางครั้งก็รู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยสุดๆ นั่นแหละคนที่เป็นเหมือนพนักงานดีเด่นอยู่เสมอมักจะทำงานมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว คุณมักจะไม่สังเกตว่ากำลังทำงานเกินตัว และจะค่อยๆสะสมความเหนื่อยล้าทีละนิดๆโดยไม่รู้ตัว ถ้าเป็นแบบนี้ ให้เริ่มต้นโดยต้องรู้ตัวก่อนว่าคุณเป็นพนักงานดีเด่นแล้วล่ะ

ลักษณะเด่นของคนที่ทำงานหนักเกินไป

คนที่ทำงานหนักเกินตัวมีลักษณะเด่นอะไรบ้าง? ถ้าเราใช้เวลาวิเคราะห์ตัวเองและจัดการกับสถานการณ์ได้ก็อาจช่วยชีวิตคุณให้ง่ายขึ้นก็ได้นะคะ ลองใช้มาดูว่ามีคุณลักษณะอะไรที่ตรงกับคุณบ้างค่ะ

เป็นคนจริงจัง

พนักงานดีเด่นหลายคน มักจะเป็นคนชอบทำงานหนักและเป็นคนจริงจังไปซะทุกเรื่อง และเมื่อทำงานแบบจริงจังตลอดเวลา คุณก็มักจะได้รับการไว้วางใจจากคนอื่นให้ทำงานเยอะขึ้นนั่นเอง ถ้ารู้สึกไม่ไหวจริงๆก็ฝึกตัวเองให้ปฏิเสธบ้างล่ะ เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่จะลำบากก็คือตัวเราเองนะคะ

เป็นคนนิยมความสมบูรณ์แบบ

ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของพนักงานดีเด่นก็คือ เวลาจะทำอะไรก็ต้องทำให้สมบูรณ์แบบ และไม่อ่อนข้อให้กับเรื่องอื่นง่ายๆ ถ้าจะทำงานบ้านก็ต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นแค่การทำงานหนัก แต่บางครั้งก็ต้องเจอความกดดันที่ต้องทำในเวลาจำกัดด้วย และเมื่อทำไม่ได้แบบที่คาดหวังไว้ก็จะโทษตัวเองนั่นเอง

ไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น

คนที่ชอบทำงานหนักมักจะได้รับความไว้ใจจากคนอื่นๆเสมอ เลยรู้สึกว่าต้องไม่ทำให้เพื่อนผิดหวัง ไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร และไม่ยอมให้ใครเห็นความอ่อนแอด้วย เพราะว่าคนแบบนี้มักจะเป็นที่จับตามองเสมอ จึงกลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะเสียไปถ้าขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง

หนึ่งในลักษณะเด่นของพนักงานดีเด่นก็คือ ขาดความเชื่อมั่นว่าตัวเองทำดีแล้ว และต้องคอยให้คนอื่นชมเชยอยู่เสมอ เมื่อรู้สึกว่าทำดีแล้ว ครั้งต่อไปก็จะต้องทำให้ดีกว่าที่ตัวเองทำไว้ ฟังแล้วเครียดตามเลยใช่มั้ยคะ

เกลียดความพ่ายแพ้

พนักงานดีเด่นมักจะคาดหวังกับตัวเองสูง ตั้งมาตรฐานของตัวเองไว้สูงจนเกินความสามารถด้วย เลยมีแนวโน้มที่จะไม่ยอมรับตัวเองเวลาทำตามเป้าหมายไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น เมื่อออกความพยายามมากอยู่แล้ว ก็จะกดดันตัวเองมากขึ้นไปอีก แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากมากก็ตาม

7 อย่างที่ต้องระวังเพื่อรักษาจิตใจตัวเองหากเป็นพนักงานดีเด่น

แม้พยายามทำงานให้ดีที่สุดแต่คุณก็อาจไม่มีความสุขเลย กลับรู้สึกเครียด ไม่มีพลังทำอะไรเลย มันก็ไม่มีความหมาย จริงมั้ย?

แล้วมีอะไรที่เพื่อนๆทำได้บ้างล่ะ? มีเคล็ดลับที่ช่วยเพื่อนๆให้สบายใจมากขึ้นและไม่ให้เหนื่อยมากเกินไป มาดูด้วยกันนะคะ 🙂

1. อย่าใช้คำว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงดี

ถ้าคุณเริ่มพูดกับตัวเองทำนองว่า “ต้องทำอย่างนี้ ต้องทำอย่างนั้น” คุณอาจกำลังขังตัวเองด้วยการห้ามตัวเองไม่ให้ทำแบบนั้นแบบนี้อยู่ สุดท้ายคุณเองจะเจ็บปวดแน่ๆ แทนที่จะพยายามคนเดียว ลองพึ่งคนอื่นบ้าง บางทีพักผ่อนและให้รางวัลตัวเองด้วยนะคะ

2. พยายามอย่าทำอะไรให้สมบูรณ์แบบ

ยิ่งคุณพยายามทำอะไรให้เพอร์เฟคมากเท่าไหร่ มันต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้นสักอย่างนึงแน่ๆ เมื่อเราไม่ยอมปล่อยวางก็จะยากที่จะพักผ่อน บางครั้งต้องให้รางวัลตัวเองออกไปกินข้าวหรูๆในวันหยุดบ้าง

3. อย่าคาดหมายมากเกินไป

คนที่ทำงานแบบพนักงานดีเด่น มีความเคร่งครัดทั้งในตัวเองและคนอื่น เป็นเรื่องดีที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง แต่อย่าคาดหวังให้เขาทำงานให้ดีเท่ากับตัวคุณเองละกัน สิ่งที่คุณขอจากคนอื่นมักจะเหมือนกับที่คาดหมายจากตัวเอง เพราะฉะนั้นสงสารคนอื่นและตัวเองบ้าง อย่าเรียกร้องมากเกินไป

4. ยอมรับว่าตัวเองไม่เหมือนคนอื่น

ที่จริงเป็นเรื่องแปลกที่ตัวเองทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น บางครั้งการมองให้ออกว่าตัวเองมีความสามารถและขีดจำกัดแตกต่างกันจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นอาจช่วยให้ความรู้สึกของคุณดีขึ้น แทนที่จะพยายามหนักกว่าคนอื่น ให้ลองฟังหัวใจและร่างกายตัวเองดู

5. ลดระดับภาระดูบ้าง

ถ้าคุณกำลังพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด  ให้พยายามลดภาระลงมาโดยไม่พยายามมากเกินไป ทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้งก็พอหรืออาหารก็ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกมื้อ ออกไปทานข้าวเที่ยงข้างนอกบ้างก็ได้… อย่าลืมว่าตัวคุณเองเท่านั้นที่กำหนดภาระตัวเองได้ ไม่ใช่คนอื่น

6. ไม่ใช่เรื่องแย่ที่จะอยู่สบายๆบ้าง

อย่างไรก็ดี เราอาจะเคยรู้สึกว่าไม่ควรพักผ่อน ในขณะที่เห็นคนอื่นๆทำงานหนักอยู่ แต่อย่าคิดไปว่าเวลาตัวเองพักและไม่ได้ทำงานหนักนั้นเป็นอะไรที่แย่ ต้องโยนความคิดนี้ทิ้งไป ทำไมเราพักผ่อนสบายๆบ้างไม่ได้ล่ะ คุณสามารถปรับความคิดตัวเองใหม่และทำดีกับคนในครอบครัวได้ 

7. ยอมรับตัวเองให้ได้ว่าเราเองก็ผิดพลาดบ้าง

ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นคนสมบูรณ์แบบ บางทีก็ทำผิดพลาดได้ ถ้ายอมรับข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้ คุณก็ให้อภัยตัวเองไม่ได้ 

แม้ว่าอาจจะทำยาก แต่สำคัญคือต้องยอมรับว่าตัวเองมีข้อผิดพลาดด้วย นั่นอาจช่วยให้คุณยอมรับคนอื่นเวลาเขาทำพลาดได้เช่นกัน

เป็นคนขยันดีแล้ว แต่หาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ

คนที่ทำงานหนัก เป็นพนักงานดีเด่นนั้น จำเป็นจะต้องมองให้ออกว่าตัวเองเป็นเช่นนั้น และระมัดระวังมากขึ้นไม่ทำงานหนักเกินไป งานหลายอย่างไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญไปหมดเสมอในชีวิต ขอให้คุณมองให้ออกว่าอะไรคืองานสำคัญที่สุดที่ต้องทำให้เสร็จก่อน อย่างอื่นก็จะลดระดับลงมาได้ทันที บางครั้ง คุณอาจจะหาเวลาพักผ่อน วางมือตัวเองและให้เวลากับตัวคุณ จิตใจ และร่างกายอย่างเต็มที่ดูนะคะ

Photo by Austin Distel on Unsplash