มีความสุขในชีวิตและการทำงาน แบบขั้น Super Productive

การใช้ชีวิตให้ Productive หมายความว่า เราสามารถพัฒนาตนเอง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า อยากเอื้อมมือไปแตะถึงขั้น Super Productive ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป 3 ไอเดียต่อไปนี้ คือสิ่งที่เราทำได้

ไม่ปล่อยให้งานมาขโมยเวลา (อย่าไปขโมยเวลาคนอื่นด้วย)

คนเราจะประสบความสำเร็จคือต้องทำงานตลอดเวลานั้นไม่จริง ชีวิตของเราไม่ควรจะมีแค่เวลางาน เพราะเวลาพักและได้ผ่อนคลายต่างหาก จะทำให้มีกำลังและไอเดียกับมาสร้างงานใหม่ๆ

ความตรงเวลาก็เป็นพื้นฐานที่สำคัญ บ่อยครั้งที่นัดประชุม 9 โมง แต่กว่าทุกคนจะพร้อมกลับเริ่มจริงๆ คือ 10 โมงเช้า ชัดๆเลยก็คือจะเสียทั้งเวลางานและเวลาของวัน เริ่มช้าเลิกช้าย่อมไม่ใช่สิ่งที่มืออาชีพเค้าทำกัน ไม่เลทไม่สายและกลับไปเลิกงานตรงเวลากันเถอะ!

มีจุดยืนที่มั่นคง

เราอาจพลาดความ Productive ไป เพราะการ ‘ไม่กล้าปฏิเสธ’ หรือ ยอมแบกทุกสิ่งอย่างมาไว้ที่ตนคนเดียว จนไม่มีเวลาได้ออกไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ความเป็น Super Productive ก็จะยิ่งไกลออกไป

ลองมองกลับมาดูว่าตัวเราทำสิ่งที่คุ้มค่าต่อแรงกาย แรงใจ และช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตไปแล้วรึยัง ยอมรับด้วยว่าย่อมไม่มีสิ่งใดที่สุดแสนจะเพอร์เฟกต์ ย้อนกลับมาจัดเวลาเพื่อทำสิ่งที่รักและชอบจริงๆ ออกไปค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ก็จะช่วยให้มีจุดยืนที่มั่นคงในการใช้ชีวิตมากขึ้น

สร้างรูปแบบชีวิตที่ส่งเสริมกัน

สุขมากขึ้นและทุกข์น้อยลง มาจากพื้นที่ๆสงบใจซึ่งเป็นเหมือนบังเกอร์ตัดสิ่งวุ่นวายออกจากตนและได้ชาร์จแบตในตัวไปพร้อมๆกัน ‘My Space’ จะช่วยให้เรานิ่งขึ้น สุขุมขึ้น พร้อมที่จะตัดสินใจเรื่องงานแบบเฉียบคมกว่า

จิตใจที่เข้มแข็งก็มีส่วน เช่น การอยู่ในวงการที่เพื่อนๆชอบเมนูปิ้งย่าง แต่เราอยากเน้นสายกรีน , อยากเข็นตัวเองไปออกกำลังกายในตอนเช้า ก็จะต้องลงมือทำไปก่อนแล้วที่เหลือก็จะง่ายขึ้น บอกเพื่อนถึงเป้าหมาย จัดชุดออกกำลังกายรอไว้ที่ปลายเตียง ก็จะผ่านสิ่งที่ ‘คิดไปเอง’ ว่ายากได้

อยากฟิตขึ้น!! อย่าลืมว่าสิ่งที่เราทำมักจะส่งผลกลับมาอยู่เสมอ ลองค่อยๆปรับเปลี่ยนแล้วมองดูที่ภาพรวมของตนซึ่งกำลังไปในทิศทางที่ดี พอได้เพิ่มความ Productive อย่างเนื่อง ก็จะสามารถอัพเกรดตัวเองให้เข้าขั้น Super Productive ได้ง่ายๆ!

Photo by The Creative Exchange on Unsplash