ปัญหาบ้านชื้น – ฝนสาด.. รับมือได้!

“ฤดูฝน” มีช่วงเวลายาวที่สุดแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือน ตุ.ค. ค่ะ (ประมาณ 5 เดือนครึ่ง) ดังนั้น จากสภาพอากาศที่ฝนตก ครึ้มบ่อยๆแบบนี้ ภายในบ้านจึงอาจมีความชื้นสูง ก่อเชื้อรา แม้แต่เมื่อฝนตกหนักๆ ก็อาจจะสาดเข้าบ้าน น้ำขังท่วมได้อีก เราจะมีเคล็ดลับจัดการยังไง ตามมาดูสิ!

สังเกตปัญหาหน้าฝน

บ้านที่เราใช้พักผ่อน หลบแดด หลบฝน เมื่อเกิดความชื้นมากๆ ที่มาจากทั้งสภาพอากาศ ฝนสาด รอยรั่วซึมของหลังคา ฝ้า ผนัง ก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อราที่ก่อปัญหาสุขภาพได้ เราจึงต้องสำรวจและเตรียมพร้อมรับมือ ไม่มองข้ามบริเวณห้องน้ำ ที่อับๆ ตามหลังตู้-เฟอร์นิเจอร์ เครื่องนอน ใต้พรม แม้แต่เครื่องปรับอากาศ ว่ากลายเป็นแหล่งความชื้นจนสังเกตุว่ามีคราบเชื้อราปรากฎ สีหรือวอลเปเปอร์ถลอก ล่อน จนเริ่มลอก หรือ มีกลิ่นอับ หากเป็นได้ให้รีบจัดการด่วนๆ

พร้อมรับมือช่วงหน้าฝน

จัดบ้านให้ดูโปร่ง โล่ง สบาย อากาศถ่ายเทสะดวก ยิ่งวันไหนที่มีแดด ให้รีบเปิดประตู/หน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ ลดปัญหาความชื้นได้ โดยอาจใช้พัดลมเป่า /อุปกรณ์ฟอกอากาศช่วย  เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์บริเวณที่ฝนสาดถึง  คว่ำภาชนะที่มีน้ำขังที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย  ทำความสะอาดรางน้ำฝน/ท่อระบายน้ำไม่ให้รั่วซึม แตกหัก หรือ มีกิ่งไม้ – เศษขยะอุดตัน เป็นสาเหตุทำให้น้ำไหลซึมเข้าสู่ตัวบ้าน  ขัดทำความสะอาดพื้นผิวเป็นประจำเพื่อไม่ให้ตะไคร่จับ มีดินโคลนที่ทำให้อุบัติเหตุลื่นล้ม และตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆตัวบ้าน หากเกิดพายุลมแรงจะได้ไม่หักโค่น รึใช้ไม้ค้ำยันไว้ก่อนก็ยังดีค่ะ 

บางคนยังเลือกต่อเติมกันสาด ทำชายคายืนออกมาอีกหน่อย เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าสู่ตัวบ้านค่ะ เพราะน้ำฝนอาจไกลย้อนเข้าทางรอยต่อ บานประตู ขอบหน้าต่าง กลายเป็นคราบน้ำที่ก่อเชื้อรา/ตะไคร่ได้เหมือนกัน จึงช่วยทั้งบังแดด-บังฝน ยืดอายุการใช้งานวัสดุ บริเวณรอบบ้านไม่ให้พุพังเร็วอีกเหมือนกัน

Photo by todd kent on Unsplash