ประโยชน์ของน้ำมันพืชที่หลายคนคาดไม่ถึง!

น้ำมันที่ทำจากพืชแต่ละชนิดให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันไป 

ดังนั้น เพื่อนๆควรมาทำความรู้จักกับน้ำมันพืชกันก่อนเลือกใช้นะคะ วันนี้เราขอนำเสนอ น้ำมันพืช 3 ชนิดค่ะ

1. น้ำมันมะพร้าว

คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันออกจากเนื้อมะพร้าว การศึกษาพบว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ได้มีผลต่อการลดน้ำหนักตัวของกลุ่มผู้ทดลอง (น้ำหนักตัวเท่าเดิม) แต่ประโยชน์ก็คือ ไม่ได้ทำให้ไขมันชนิดเลว (LDL) เพิ่มขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) อีกด้วย จึงมีผลโดยตรงต่อการช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุมาจากไขมันค่ะ 

นอกจากนั้น การใช้น้ำมันมะพร้าวทำอาหารจะดีกว่าการใช้น้ำมันพืชทั่วไปอีกด้วย หรือจะใช้รับประทานเป็นอาหารเสริมก็ได้ค่ะ โดยผู้ใหญ่รับประทานวันละ 3-4 ช้อนชา ส่วนเด็กรับประทานวันละ 1-2 ช้อนชา วิธีทานคือให้แบ่งการรับประทานออกเป็นมื้อ ๆ จนครบตามจำนวน หรือจะนำมาใช้ผสมเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ หรือน้ำผลไม้ก็ได้นะคะ (น้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำมะเขือเทศก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียวนะ) และสำหรับสาว ๆ ส่วนมากจะนิยมใช้ในการหมักผม ใช้เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า และนำมาใช้ทาบำรุงผิว ใช้ได้ทั้งกินทั้งทากันเลยทีเดียว…ว้าวววว

2. น้ำมันงา

น้ำมันงานั้นประกอบไปด้วยวิตามิน บี และ อี แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ นำ้มันงาช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ตับผลิตคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีออกมาได้ด้วยค่ะ น้ำมันงาสามารถเก็บไว้ได้นาน กลิ่นและสีไม่เปลี่ยนเหมือนน้ำมันทั่วๆไป เอาไปปรุงอาหารได้หลากหลายเลยจ้า

นอกจากนั้น สามารถเอาน้ำมันงามาชโลมลงบนรากผมและหนังศีรษะได้ด้วย โดยชโลมไว้ให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วสระผมด้วยแชมพูในเช้าวันถัดไป หรือจะสระเลยก็ได้นะจ๊ะ ผมจะนุ่มชุ่มชื่นสุดๆไปเลย ลองดูดิ…

3. น้ำมันมะกอก

เป็นน้ำมันธรรมชาติที่สกัดจากผลของต้นมะกอก ผู้คนนิยมนำน้ำมันมะกอกมาใช้ประกอบอาหาร หรือเป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตหลากหลายรูปแบบ เช่น การผลิตสบู่ พลาสเตอร์ น้ำมันนวด วัสดุอุดฟัน โอ้โฮ…ประโยชน์เยอะสุดๆไปเลยจ้า

ปัจจุบันมีการผลิตน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil) ขึ้นมา โดยเชื่อว่ามีคุณสมบัติและประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำมันมะกอกทั่วไป เพราะน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากน้ำมันมะกอกทั่วไป คือ ผ่านการสกัดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ทำให้คงคุณค่าและสารอาหารทางโภชนาการที่มีประโยชน์ไว้ได้มากกว่าน้ำมันมะกอกที่ผลิตด้วยวิธีทั่วไปนั่นเองค่ะ 

น้ำมันมะกอกมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ลดไขมันในเลือดที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ ลดความอ้วนได้ด้วยนะจ๊ะสาวๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ด้วยค่ะ บำรุงผิวได้ด้วย แต่ถ้าจะใช้ทาต้องทดลองดูก่อนว่าแพ้หรือเปล่านะจ๊ะ

มีแต่สิ่งดีๆทั้งนั้นเลยนะคะ เดี๋ยวกลับบ้านต้องไปดูว่ามีติดบ้านไว้บ้างหรือเปล่า หวังว่าเพื่อนๆจะมีติดบ้านไว้บ้างนะคะ เพื่อจะทำให้ทั้งสวยและสุขภาพดีจ้าา >.<

ดังนั้น เพื่อนๆควรมาทำความรู้จักกับน้ำมันพืชกันก่อนเลือกใช้นะคะ วันนี้เราขอนำเสนอ น้ำมันพืช 3 ชนิดค่ะ

1. น้ำมันมะพร้าว

คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันออกจากเนื้อมะพร้าว การศึกษาพบว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ได้มีผลต่อการลดน้ำหนักตัวของกลุ่มผู้ทดลอง (น้ำหนักตัวเท่าเดิม) แต่ประโยชน์ก็คือ ไม่ได้ทำให้ไขมันชนิดเลว (LDL) เพิ่มขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) อีกด้วย จึงมีผลโดยตรงต่อการช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุมาจากไขมันค่ะ 

นอกจากนั้น การใช้น้ำมันมะพร้าวทำอาหารจะดีกว่าการใช้น้ำมันพืชทั่วไปอีกด้วย หรือจะใช้รับประทานเป็นอาหารเสริมก็ได้ค่ะ โดยผู้ใหญ่รับประทานวันละ 3-4 ช้อนชา ส่วนเด็กรับประทานวันละ 1-2 ช้อนชา วิธีทานคือให้แบ่งการรับประทานออกเป็นมื้อ ๆ จนครบตามจำนวน หรือจะนำมาใช้ผสมเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ หรือน้ำผลไม้ก็ได้นะคะ (น้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำมะเขือเทศก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียวนะ) และสำหรับสาว ๆ ส่วนมากจะนิยมใช้ในการหมักผม ใช้เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า และนำมาใช้ทาบำรุงผิว ใช้ได้ทั้งกินทั้งทากันเลยทีเดียว…ว้าวววว

2. น้ำมันงา

น้ำมันงานั้นประกอบไปด้วยวิตามิน บี และ อี แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ นำ้มันงาช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ตับผลิตคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีออกมาได้ด้วยค่ะ น้ำมันงาสามารถเก็บไว้ได้นาน กลิ่นและสีไม่เปลี่ยนเหมือนน้ำมันทั่วๆไป เอาไปปรุงอาหารได้หลากหลายเลยจ้า

นอกจากนั้น สามารถเอาน้ำมันงามาชโลมลงบนรากผมและหนังศีรษะได้ด้วย โดยชโลมไว้ให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วสระผมด้วยแชมพูในเช้าวันถัดไป หรือจะสระเลยก็ได้นะจ๊ะ ผมจะนุ่มชุ่มชื่นสุดๆไปเลย ลองดูดิ…

3. น้ำมันมะกอก

เป็นน้ำมันธรรมชาติที่สกัดจากผลของต้นมะกอก ผู้คนนิยมนำน้ำมันมะกอกมาใช้ประกอบอาหาร หรือเป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตหลากหลายรูปแบบ เช่น การผลิตสบู่ พลาสเตอร์ น้ำมันนวด วัสดุอุดฟัน โอ้โฮ…ประโยชน์เยอะสุดๆไปเลยจ้า

ปัจจุบันมีการผลิตน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil) ขึ้นมา โดยเชื่อว่ามีคุณสมบัติและประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำมันมะกอกทั่วไป เพราะน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากน้ำมันมะกอกทั่วไป คือ ผ่านการสกัดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ทำให้คงคุณค่าและสารอาหารทางโภชนาการที่มีประโยชน์ไว้ได้มากกว่าน้ำมันมะกอกที่ผลิตด้วยวิธีทั่วไปนั่นเองค่ะ 

น้ำมันมะกอกมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ลดไขมันในเลือดที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ ลดความอ้วนได้ด้วยนะจ๊ะสาวๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ด้วยค่ะ บำรุงผิวได้ด้วย แต่ถ้าจะใช้ทาต้องทดลองดูก่อนว่าแพ้หรือเปล่านะจ๊ะ

มีแต่สิ่งดีๆทั้งนั้นเลยนะคะ เดี๋ยวกลับบ้านต้องไปดูว่ามีติดบ้านไว้บ้างหรือเปล่า หวังว่าเพื่อนๆจะมีติดบ้านไว้บ้างนะคะ เพื่อจะทำให้ทั้งสวยและสุขภาพดีจ้าา >.<

Photo by Roberta Sorge on Unsplash