“น้ำตาล” สารเสพติดที่หาได้ในครัว

ดูรูปภาพแล้วรู้สึกยังไงคะ? รู้สึกว่ากำลังโดนเรียกอยู่รึป่าว? ถ้าใช่ คุณก็อาจเป็นคนนึงที่เสพติดน้ำตาลไปแล้วก็ได้ จริงๆแล้วน้ำตาลเป็นสารเสพติดจริงๆหรอ? จริงค่ะ! คุณเคยเห็นใครพยายามลดหรือเลิกน้ำตาลมั้ย? หรือแม้แต่คุณเองก็เคยลองเลิกน้ำตาลดด้วยมั้ยคะ? ผลเป็นยังไง? 555 ไม่ต้องตอบเลย ยากมากแน่ๆ จริงๆแล้วสาเหตุหลักๆมันเกิดจากสมองของเราต่างหากล่ะ น้ำตาลสามารถเข้าควบคุมสมองของเราได้ค่ะ! เอาล่ะ วันนี้เราจะมาหาสาเหตุกันว่า ทำไมสมองของเราถึงเสพติดน้ำตาลได้ง่ายดายขนาดนั้น

เพราะน้ำตาลคือของขวัญสำหรับสมอง

น้ำตาลคือพลังงานที่สมองโปรดปรานเป็นที่สุด เพราะปริมาณฟรุคโตสในน้ำตาลนั้นสูงปรี๊ดดด!! ดังนั้น การกินน้ำตาลไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจะทำให้น้ำหนักของเราพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลักๆแล้วน้ำตาลจะมีผลโดยตรงต่อสมองส่วนนิวเคลียสแอกคัมเบนส์(สมองส่วนที่เชื่อมโยงกับการให้รางวัล ความพึงพอใจ หรือการเสพติด)ของเรานะคะ เมื่อเรากินอาหารหวานๆหรืออาหารที่น้ำตาลสูงๆ สมองเราจะปล่อยสารที่เรียกว่า โดพามีนเข้าสู่สมองส่วนนิวเคลียสแอกคัมเบนส์ ยิ่งเรากินอาหารประเภทนี้บ่อยเท่าไหร่ๆ ตัวควบคุมการหลังสารโดพามีนก็จะยิ่งทำงานช้าลงเรื่อยๆ จนในที่สุดกว่าจะรู้ตัวร่างกายก็จะเข้าสู่ภาวะที่ชินกับการกินของหวานไปซะแล้วค่ะ

น้ำตาลนั้นเปรียบได้กับสารจำพวกนิโคติน หรือกัญชาเลยทีเดียว ยิ่งร่างกายได้รับสิ่งเหล่านี้มากๆ สมองส่วนนิวเคลียวแอกคัมเบนส์ก็จะยิ่งสั่งเพิ่มมากกว่าเดิมค่ะ เพื่อเติมรางวัลให้สมองอยู่เรื่อยๆแบบไม่รู้จักพอกันเลยทีเดียว และสุดท้ายเราก็จะติดจนไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้อีกต่อไปค่ะ

วิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลอย่างดีในการทำให้ร่างกายติดน้ำตาล นอกจากจะทำให้คุณควบคุมความอยากไม่ได้แล้ว ยังทำให้คุณอยากมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย กลัวแล้วจ้าา!


Photo by Lena Myzovets on Unsplash

จากการศึกษาพฤติกรรมของคนที่ติดน้ำตาลพบว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ติดมักจะเป็นผู้ที่กินหวานบ่อยๆ และจบลงด้วยการเสพติดน้ำตาลในที่สุด การเสพติดน้ำตาลนั้นมีกระบวนการที่เหมือนกันกับการติดสารเสพติดทุกประการ อาจจะแตกต่างกันแค่ผลลัพท์จากการที่เสพมากเกินไปเท่านั้น คนส่วนใหญ่จะรู้สึกอยากอาหารหวาน อาหารขยะ หรือน้ำตาลต่างๆ เหมือนกับที่คนติดสารเสพติดอยากเสพยาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าคุณไม่อยากเป็นคนติดสารเสพติด(น้ำตาล) คุณควรงดปริมาณน้ำตาลในทุกๆอาหารที่รำเลียงเข้าปากไปนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน…

.Photo by Brigitte Baranyi on Unsplash