น้ำตาล คือรางวัลของชีวิตจริงๆหรอ?

หลายคนรู้สึกว่าการพักผ่อนหรือให้รางวัลแด่การทำงานหนักคือการกินเค้กซักชิ้น ช็อคโกแลตซักก้อน หรืออะไรก็ได้ที่หวานๆซักอันนึง จริงๆแล้วความคิดแบบนี้คือ “ผิด” ค่ะ!! น้ำตาลไม่ใช่รางวัลอะไรหรอกนะ จริงๆแล้วมันคือสารเสพติดสำหรับร่างกายต่างหากล่ะ บทความที่แล้วเราคงได้รู้กันไปแล้วว่าทำไมน้ำตาลถึงควบคุมสมองได้ ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าเจ้าเม็ดขาวๆใสๆที่หาได้จากในครัวนี้มีผลอันตรายร้ายแรงยังไงกับร่างกายเรานะคะ

แน่นอนว่านอกจากทำให้เราอ้วนได้ง่ายๆแล้ว การบริโภคน้ำตาลเยอะเกินไปยังส่งผลให้มีของแถมต่างๆตามมาอีกเพียบเลยจ้า สิ่งที่คุณจะต้องรู้คือ น้ำตาลเป็นอาหารหลักของ “มะเร็ง” ภัยร้ายตัวการหลักที่ฆ่าคนตายอยู่ทุกวันเลยนะ


กินน้ำตาลทำให้สมาธิสั้น

เคยได้ยินมั้ยคะ กินน้ำตาลแล้วดีด 555 ฟังไม่ผิดหรอก มีงานวิจัยออกมาแล้วว่าเด็กที่อายุ 3 ขวบ ทั้งหมด 277 คน เมื่อกินอาหารที่มีความหวานเทียบกับอาหารที่ไม่หวาน พฤติกรรมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ กล่าวคือเด็กที่กินหวานนั้นจะมีสมาธิที่สั้นลงมากกว่าปกติถึงครึ่งนึงเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าใครสังเกตว่าเด็กที่บ้านเริ่มมีอาการสมาธิสั้น อยู่ไม่สุข ให้ลองลดขนม ของหวาน ลูกอม น้ำอัดลม หรืออะไรๆที่จะเพิ่มน้ำตาลได้ดูนะคะ

กินน้ำตาลแล้วภูมิต้านทานลดลง

น้ำตาลนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาวนะคะ เรารู้อยู่แล้วว่าหน้าที่ของเจ้าเม็ดเลือดขาวนั้นคือการทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย หรือการป้องกันและปกป้องตัวเราจากสิ่งแปลกปลอมทั้งหลาย แต่ในคนที่กินน้ำตาลมากเกินไปนั้นจะส่งผลต่อเม็ดเลือดขาวที่ชื่อว่า Tlyphocyte ค่ะ เจ้าตัวนี้เป็นตัวหลักๆของภูมิต้านทางในร่างกายเรานะคะ ดังนั้นถ้าเจ้านี่อ่อนแอลง หรือทำงานลดลง เราก็จะอ่อนแอลงตามไปด้วยค่ะ ใครที่เป็นภูมิแพ้หรือเป็นหวัดบ่อยๆก็ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินดูก็อาจจะช่วยได้นะคะ

กินน้ำตาลแล้วจะกระตุ้นเซลมะเร็ง

อันนี้เรื่องใหญ่เลย เรารู้จักหรือเคยได้ยินอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ใช่มั้ยคะ เมื่อน้ำตาลในร่างกายของเราสูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าอนุมูลอิสระนี้ก็จะยิ่งคึกคักลั้ลลาวิ่งไปทั่วในร่างกายเราค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวนะคะ แต่ไปทำลายต่างหาก กลั๊ววว!! ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีเซลมะเร็ง ในเซลนั้นจะมี Glucose Receptor ที่เป็นตัวดูดน้ำตาลได้มากกว่าคนปกติถึง 24 เท่าค่ะ!! นั่นหมายความว่า ยิ่งเรากินหวานมากๆก็เท่ากับเรากำลังส่งสะเบียงเข้าเซลมะเร็งโดยตรงนะคะ ดังนั้น เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวก็พอ อย่าต้องถึงกับเลี้ยงมะเร็งกันเลยนะคะ

นอกจากอันตรายหลักๆที่เราพูดถึงไปแล้ว ยังมีโรคอื่นๆอีกเช่น โรคอ้วน เบาหวาน ลำไส้ใหญอักเสบเป็นแผลเรื้อรัง หอบหืด ไมเกรน ซึมเศร้า ฟันผุ กระดูกผุ โรคหัวใจ หลอดเลือด บลาๆๆๆ โอ้ยยยย เยอะเกิ้นนน


Photo by National Cancer Institute on Unsplash

แล้วร่างกายกำจัดน้ำตาลเองได้มั้ย?

จริงๆแล้วร่างกายเราถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมค่ะ มีกลไกต่างๆที่จะช่วยรักษาสมดุลในร่างกายได้ ในส่วนของน้ำตาลนี้ ร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็นกลูโคสก่อนเพื่อย้ายไปสู่เส้นเลือดค่ะ เพื่อให้เลือดพากลูโคสไปส่งยังเซลต่างๆ แล้วหลังจากนั้นตับอ่อนของเราจะหลั่งสารที่ชื่อว่า อินซูลิน ออกมาเพื่อขจัดน้ำตาลที่เกินอยู่ในเลือด เลยทำให้ร่างกายรู้สึกอยากของหวาน เมื่อเรากินอีกเราก็เติมน้ำตาลให้ร่างกายอีก หมุนวนไปเรื่อยๆแบบนี้ไม่จบสิ้นซะที และแน่นอนว่ายิ่งกินมาก ตับอ่อนก็ต้องผลิตอินซูลินมาก และอะไรที่ทำงานมากๆก็จะเหนื่อยในที่สุดตับอ่อนก็จะเหนื่อยค่ะ และจะเริ่มผลิตอินซูลินไม่ไหว เมื่อผลิตได้ไม่มากพอ น้ำตาลในเลือดเราก็จะขับออกได้น้อยลง สุดท้ายร่างกายก็เข้าสู่ภาวะเบาหวานในที่สุดนั่นเองจ้าา

อ่านถึงตรงนี้ก็คงเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยคะว่าน้ำตาลนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่รางวัลของชีวิต แต่มันคือสารเสพติดต่างหาก แถมยังเป็นสารเสพติดที่ถูกกฏหมาย หาได้จากในครัวอีกด้วย ผลที่ตามมานั้นร้ายแรงมากอย่างที่เราก็อาจคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว และที่สำคัญน้ำตาลไม่ได้มาในรูปแบบของน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังมาในรูปแบบแฝงอย่างอื่นอีกด้วย น้ำตาลแฝงมีอยู่ในอะไรบ้าง อยากรู้ บทความหน้าเจอกันค่ะ ^^

Photo by Fredrik Ivansson on Unsplash