แอดมินเชื่อว่า “คอกาแฟ” ทั้งหลายเมื่อไม่ได้ดื่มกาแฟ เช่น เวลาที่ต้องไปตรวจสุขภาพ ผ่าตัด หรือฉีดวัคซีน มักจะกังวลใจไม่น้อย เพราะเวลาไม่ได้ดื่มกาแฟทีไร ทำไมมักจะปวดหัวจนทนไม่ไหวทุกที….
ใครที่ขาดกาแฟแล้วมีอาการแบบนี้อยู่ มาดูสาเหตุและวิธีแก้กันค่ะ
ทำไมไม่ได้ดื่มกาแฟ มักจะปวดหัว??
เนื่องจากในกาแฟมีสารคาเฟอีนที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราหลั่งฮอร์โมนที่ตื่นตัวออกมา ทำให้เรามีเรี่ยวแรงที่จะทำงาน กระปรี้กระเปร่า และสดชื่น แต่เนื่องจากสารคาเฟอีนมีฤทธิ์เหมือนสารเสพติด วันไหนที่ร่างกายเราขาดหรือหยุดดื่มกาแฟ ก็จะทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียและปวดหัวได้ โดยความรุนแรงของอาการปวดหัวจะขึ้นอยู่กับร่างกายของเราไวว่ากับคาเฟอีนมากขนาดไหน ถ้าเราไวมากเราก็จะปวดหัวมาก
มีวิธีแก้อาการปวดหัวให้หายไปได้ไหม ถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟ หรือ อยากเลิกดื่ม ??
ปกติแล้วอาการปวดหัว จะเริ่มมีอาการหลังจากที่ไม่ได้ดื่มกาแฟประมาณ 24 ชั่วโมง โดยจะมีอาการรุนแรงภายใน 1-2 วันแรก หรืออาจเป็นได้นานกว่านั้น ซึ่งอาการปวดหัวจะมีวิธีแก้ได้ดังต่อไปนี้
- ค่อยๆลดปริมาณการดื่มลง จากที่เคยดื่มวันละ 4-5 แก้ว โดยให้เหลือ 2 แก้วต่อวัน หรือ เลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟที่เราดื่มปกติ เช่น ชา โกโก้ ดาร์คช็อกโกแลต หรือกาแฟดีแคฟ อย่าหักดิบด้วยการเลิกดื่มทันทีเพราะจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และจะทำให้ปวดหัวมากขึ้น
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อลดปริมาณของคาเฟอีนในร่างกายให้น้อยลง ตามปกติคาเฟอีนจะอยู่ในร่างกายของเราที่ประมาณ 5 ชั่วโมง การดื่มน้ำจะช่วยขับปริมาณคาเฟอีนให้ออกจากร่างกายของเราได้เร็วขึ้น
- หาตัวช่วยเพื่อลดความง่วง ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่อยากจะเลิกดื่มกาแฟอย่างยั่งยืน วิธีที่จะได้ผลที่สุดก็คือ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกาย จะช่วยให้เราไม่หวนกลับไปพึ่งคาเฟอืนอีก และจะช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้นด้วยนะ
เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากเลิกดื่ม หรืออยากจะดื่มให้น้อยลงแต่ไม่อยากหักดิบเพราะปวดหัว ก็ลองทำตามวิธีที่แอดมินแนะนำดูนะคะ ดื่มวันละนิด….จิตแจ่มใส ดื่มมากไป…. สุขภาพแย่นะ ขอเตือน!!!
Photo by Fahmi Fakhrudin on Unsplash