ความเสี่ยงของผู้สูงวัยที่ลูกหลานไม่ควรมองข้าม

พออายุมากขึ้นร่างกายของผู้สูงอายุก็เริ่มเสื่อมลงเรื่อย ๆ ความแข็งแรงลดน้อยลง โรคภัยไข้เจ็บเริ่มมาเยือนบ่อยขึ้น และความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย ความเสี่ยงของผู้สูงวัยมีอะไรบ้าง ?  ลูกหลานห้ามมองข้ามเด็ดขาดค่ะ 

อารมณ์ซึมเศร้า

ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าวัยอื่นๆค่ะ  เพราะอวัยวะต่างๆของร่างกายเสื่อมเร็วมาก เช่น จะลุก ยืน นั่ง นอน เดินก็ลำบาก หู ตา ก็ไม่ค่อยดี กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำอะไรก็ไม่ค่อยไหว ต้องพึ่งลูกหลานมากขึ้น ทำให้มีความคิดว่าตัวเองไร้ค่า ผู้สูงอายุบางคนต้องอยู่บ้านคนเดียวยิ่งทำให้รู้สึกเหงา และรู้สึกว่าถูกทิ้ง ลูกหลานต้องพยามสังเกตว่า ผู้สูงอายุในบ้านเริ่มมีอาการพูดน้อยลง ไม่กินข้าว หรือมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ และบ่นอยากตายหรือเปล่า  ถ้ามีต้องเอาใจใส่อารมณ์ของท่านให้มาก และพยายามเป็นเพื่อนชวนคุยอย่างน้อยท่านจะได้รู้สึกสบายใจ หายเหงาได้ค่ะ

การหกล้ม

การลื่น หกล้มเป็นความเสี่ยงอันดับต้นๆของผู้สูงอายุเลยแหล่ะค่ะ จากสถิติของกระทรวงสาธารณะสุขพบว่า ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปเสี่ยงต่อการล้ม 28-35 % , อายุ70 ปีขึ้นไปเสี่ยงถึง 32-42 % ลูกหลานต้องคอยระวังเวลาที่ท่านเดินไปเข้าห้องน้ำ หรือเวลาเดินขึ้น-ลงบันได เนื่องจากกระดูกเสื่อม กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง ทำให้เสียการทรงตัว การมองเห็นลดลง ยิ่งทำให้ควบคุมการเดินลำบาก เสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ง่าย พอล้มแล้วกระดูกก็จะแตกหักทันที ถ้าเป็นไปได้ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ห้องนอนควรจะมีห้องน้ำในตัว มีราวจับ และปูพื้นแบบกันลื่นและมีไฟที่สว่างเพียงพอค่ะ

สมองเสื่อม 

ภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการรู้คิด การรับรู้ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพราะสมองทำหน้าที่ผิดปกติซึ่งเป็นผลมาจากอายุที่มากขึ้น และโรคประจำตัวอย่างความดัน ไขมันในเลือดสูง โรคซึมเศร้า 

ดูแลเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงลดลง 

การเอาใจใส่ดูแลผู้สูงอายุในบ้าน ทั้งเรื่อง อาหาร สุขภาพ ความปลอดภัย และอารมณ์ เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากๆ เพราะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยทางร่างกาย และจิตใจ ลดภาระเรื่องค่าใช่จ่ายได้อีกเยอะ  ถ้าท่านสุขภาพดีมีความสุข ท่านจะกินได้เยอะ หลับก็ง่าย มีอายุยืนยาว ลูกหลานก็มีความสุขค่ะ ถึงจะแม้เหนื่อย ขอให้อดทนนะคะ เพราะท่านเลี้ยงดูเรามาเหนื่อยกว่าเราหลายเท่าค่ะ ใครที่ดูแลผู้สูงอายุอยู่ ขอให้สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

อ้างอิง

ภาพโดย Sabine van Erp จาก Pixabay